The deepest condolences on royal cremation ceremony of His Holiness the Supreme Patriarch
- KBO Admin
- Dec 14, 2015
- 2 min read
(โปรดอ่านฉบับภาษาไทยด้านล่าง)
Knowing Buddha Organization would like to express our deepest condolences on royal cremation ceremony of His Holiness the Supreme Patriarch Somdet Phra Nyanasamvara Somdet Phra Sangharaja on Wednesday, 16 December 2015.
Somdet Phra Nyanasamvara Somdet Phra Sangharaja (Charoen Suvaddhano), the 19th Supreme Patriarch of Thailand, held the title of Supreme Buddhist Patriarch (Sangharaja) of Thailand in 1989 during the reign of King Bhumibol Adulyadej. He was the longest-living Supreme Patriarch in Thai history and he was the first Supreme Patriarch who reached 100 years old.
His Holiness has performed duties that are of great benefits to the religion, the nation and its people, including education, foreign affair, Buddhism propagation and public welfare. He also was appointed a special task as a guardian and advisor to King Bhumibol Adulyadej during his royal ordination at Wat Bowonniwet Vihara.
His Holiness Somdet Phra Nyanasamvara is highly revered even among Buddhists in foreign countries. As such, the Myanmar Government has bestowed upon him the title of "Abhidhaja Maharattha Guru, which is the highest ecclesiastical title of the Myanmar Sangha, and at the World Buddhist Supreme Conference, Buddhist Summit along with the Supreme Buddhist leaders of 32 countries of the world in 2012 also bestowed the title of "Supreme Holiness of World Buddhism" on him.
His Holiness passed away at 7.30 pm on Wednesday, October 24, 2013 at at Chulalongkorn Hospital at the age of 100 years and 21 days. The cremation ceremony will be held for three days from 15 to 17 December, 2015. For those who wish to pay respect to the Supreme Patriarch, traditional sandalwood flowers will be distributed at various Buddhist temples throughout the country.
15 December 2015 Knowing Buddha Organization

--------------------------------------- ขอน้อมถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ วันพุธที่ 16 ธันวาคม พุทธศักราช 2558 เกล้ากระหม่อม องค์กรโนอิ้ง บุดด้า เพื่อการปกป้องพระพุทธศาสนา
เฉกแสงสูรย์สูญแสงทุกแหล่งหล้า....พระสังฆราชาคราดับขันธ์ พระจริยายิ่งอารยะคุณอนันต์............ทอแสงธรรม์ทั่วสากลพ้นประมาณ พระประทีปพุทธะสยามชาติ.............ขอตามรอยพระบาทสืบศาสน์ศานต์ น้อมถวายอภิมานสักการ..................ส่งเสด็จสู่นิพพานนิรันดร์เทอญ (ฐพัชร์ แสงทอง - ร้อยกรอง) --------------------------------------- สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวัฑฒโน) สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อปี พ.ศ.2532 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นสมเด็จพระสังฆราชที่มีพระชนมายุมากกว่าสมเด็จพระสังฆราชทุกองค์ในอดีตและเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์แรกของไทยที่มีพระชนมายุ 100 พรรษา
ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจต่างๆ ทั้งด้านการศึกษา การต่างประเทศ การสั่งสอนเผยแผ่พระพุทธศาสนา ด้านสาธารณสงเคราะห์และอื่นๆ อันเป็นประโยชน์ต่อพระศาสนา ประเทศชาติ และประชาชนเป็นอเนกประการ และทรงปฏิบัติหน้าที่พิเศษสำคัญยิ่งคือ เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวชและประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระญาณสังวรฯ ได้รับหน้าที่เป็นพระอภิบาลโดยตลอด
เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนนานาประเทศ ด้วยเหตุนี้ ทางรัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ จึงได้ทูลถวายตำแหน่ง อภิธชมหารัฐคุรุ อันเป็นสมณศักดิ์สูงสุดแห่งคณะสงฆ์เมียนมาร์ และที่ประชุมผู้นำสูงสุดแห่งพระพุทธศาสนาโลก จาก 32 ประเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2555 ได้ถวายพระเกียรติยศอันสูงสุด "ผู้นำคณะสงฆ์สูงสุดแห่งโลกพระพุทธศาสนา" เป็นครั้งแรกของโลก
ในฐานะพระมหาเถระผู้ได้รับการเคารพอย่างสูงสุดจากชาวพุทธทั่วโลกและเป็นที่ยอมรับของคณะสงฆ์ทุกนิกาย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สิ้นพระชนม์ เมื่อเวลา 19:30 น. วันที่ 24 ตุลาคม 2556 ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยของชาวพุทธทั่วโลก สิริพระชนมายุ ได้ 100 พรรษา 21 วัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนชั้นเครื่องเกียรติยศประกอบพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) ถึง 2 ครั้ง เป็นกรณีพิเศษ ครั้งแรกเมื่อคราวสิ้นพระชนม์ จากพระโกศกุดั่นน้อย เป็นพระโกศกุดั่นใหญ่ และครั้งที่ 2 ในการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ วันที่ 15 -17 ธ.ค. 2558 เลื่อนจากพระโกศกุดั่นใหญ่ เป็น พระโกศทองน้อย ซึ่งถือเป็นเครื่องประกอบพระอิสริยยศชั้นเจ้าฟ้า เพื่อเฉลิมพระเกียรติยศและบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างสมเด็จพระ สังฆราชในอดีตด้วยทรงดำรงอยู่ในครุฐานียะเป็นที่ตั้งแห่งพระราชศรัทธาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่ามาโดยตลอดพระชนม์ชีพ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ระหว่างวันที่ 15 -17 ธ.ค. 2558
และวันที่ 16 ธ.ค. 2558 เวลา 16:30 น. พระราชทานเพลิงพระศพ ณ พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส โดยประชาชนสามารถร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ตามวัดต่างๆที่กำหนดในกรุงเทพฯและส่วนภูมิภาค เพื่อถวายความอาลัยและถวายสักการะแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
------------------- 15 ธันวาคม 2558 องค์กรโนอิ้ง บุดด้า เพื่อการปกป้องพระพุทธศาสนา
Comments