top of page

เราจะออกจากปัญหาไม่ได้หากยังติดอยู่กับการนับตัวเลขผู้ติดเชื้อ

  • Aug 13, 2021
  • 1 min read

ree

ศบค.และท่านนายกทำอะไรลงไป... ท่านกำลังผลักประชาชนออกจากท่าน จนจะไม่มีใครอยากอยู่ข้างท่านอีก .. เรารู้สึกว่า เวลาขอร้องอะไรแบบสุภาพ แล้วท่านไม่ฟัง ท่านนายกกับศบค. กุมอำนาจในการแก้ปัญหาอยู่คนเดียว โปรดมองความจริงอีกด้านบ้าง แทนการยึดแนวทางเดิมที่ไม่มีวันออกจากปัญหาได้ .. คณะแพทย์ได้แลรอบหรือไม่ หรือปิดตาไม่ยอมมองดูแนวทางประเทศอื่นๆ ท่านมุ่งแก้ปัญหาโควิด ด้วยวิธีการที่ทำให้ประชาชนกำลังล้มตายเพราะสิ้นหวัง ไปจนถึงการฆ่าตัวตาย สถิติต่างๆ ทำให้เห็นได้ว่า โควิดไม่ได้รุนแรงอย่างที่ท่านและสื่อพยายามนำเสนอโรคนี้มีอัตราการตายจริงอยู่ แต่เพียง 0.8% และผู้ตายส่วนใหญ่คือคนสูงวัยและมีโรคประจำตัว แม้ตัวเลขการติดเชื้อรายวันจะสูง แต่ยอดการตายถือว่าต่ำ แต่คนทั้งประเทศต้องถูกจำกัดสิทธิในการใช้ชีวิตและอยู่ในสภาพไม่มีทางออก ในข้อเท็จจริงนั้น .. 1. อัตราการตายจากโควิด น้อยกว่าตายจากมะเร็ง (ปีละ 80,665 คนต่อปี) และน้อยกว่าอุบัติเหตุจากการเดินทาง 2. ผู้ที่ตายจากโควิด 65% คือผู้สูงวัยและมีโรคประจำตัว 3. ผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบ ส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย 4. ผู้มีอาการสามารถรักษาได้ด้วยสมุนไพรหรือยา เหมือนการรักษาไข้หวัด แต่สิ่งที่ศบค.ทำอยู่ตลอดปีครึ่งคือ ... 1. นำเสนอข่าวสารให้ประชาชนหวาดกลัวโรคเกินจริง จนเกิดสภาวะตื่นตระหนก ไม่ยอมรับว่า ทุกคนสามารถติดเชื้อโควิดได้ 2. นำเสนอตัวเลขผู้ติดเชื้อ จนกลายเป็นดัชนีวัดความรุนแรงของโรค ทั้งๆที่ผู้ติดเชื้อส่วนมาก ไม่มีอาการ และการตรวจพบไม่น้อยเป็นผลบวกลวง 3. ออกนโยบายให้ผู้ว่าฯทุกจังหวัด ลดตัวเลขการติดเชื้อ ก่อเกิดการตั้งนโยบายกีดกันการเดินทาง เป็นเหตุให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวพัง 4. คนติดเชื้อทั้งที่ไม่มีอาการและอาการน้อย พุ่งเข้าไปขอรับการรักษาจนต้องตั้งรพ.สนาม เพราะความหวาดกลัวเกินจริง 5. บุคลลากรการแพทย์ทำงานหนักจนรับไม่ไหว 6. การจัดการเรื่องวัคซีนล่าช้า 7. สั่งล๊อคดาวน์ ยืดเยื้อยาวนาน จนภาคเอกชนและประชาชนประคองตัวต่อไปไม่ไหว 8. ริดรอนสิทธิเสรีภาพในการทำมาหากินและการใช้ชีวิต จนประชาชนสิ้นเนื้อประดาตัว .. เมื่อไหร่ พวกท่านจะมองเห็นความจริงข้อนี้ ว่านโยบายที่ท่านทำนั้น ไม่สมเหตุผล นำความเสียหายร้ายแรงแก่ชาติและประชาชน ท่านจะเลือกวิธีการแก้ไขปัญหาเรื่องสุขภาพ โดยทำลายรากฐานเศรษฐกิจและหนทางชีวิตของประชาชนอย่างยาวนานอย่างนี้ต่อไปอีกไม่ได้ . ในการเดินทางต่างจังหวัด เจ้าหน้าที่ขอดู PCR- TEST ที่มีใบรับรองแพทย์ ทำให้ต้องตรวจที่โรงพยาบาลหรือคลีนิค แต่ โรงพยาบาลและคลีนิคคิดค่าตรวจ 2,500 – 4,500 บาท ยิ่งผลักภาระให้ประชาชนที่ไม่สามารถตรวจได้ หมายถึงเกิดการแบ่งแยกกีดกันประชาชน ท่านยังปล่อยให้รพ.และคลีนิคคิดราคาค่าตรวจอย่างนี้ต่อไป โดยไม่ทำอะไร

ท่านนั่งออกนโยบายกันในห้องแอร์ผ่านวีดีโอคอล ดูแต่แนวทางการแพทย์ แต่ไม่ลงมาดูชีวิตจริง แม้มีตัวเลขที่ติดเชื้อมาก แต่เขาอยู่ได้ตามปกติ พบใครติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนก็ไปตีตราว่าเป็นคลัสเตอร์ ทั้งๆที่เขาไม่ได้เป็นอะไร ก่อเกิดความหวาดผวาและการแบ่งแยกประชาชน ท่านได้เคยแถลงในมุมของการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่บ้างหรือไม่ ประชาชนเดือดร้อนหนักกับนโยบายการแก้ปัญหา กีดกั้นทุกอย่าง กับโรคที่ทุกคนสามารถติดเชื้อได้และรักษาหายได้ 99%

โปรดเลิกแนวทางที่ไม่สมเหตุผล . 1. บอกให้ประชาชนรู้ ว่าทุกคนติดเชื้อได้ อย่าหวาดกลัวเกินจริง และรักษาหายได้ 99% 2. เลิกรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อ แต่รายงานเฉพาะผู้มีอาการหนัก 3. เลิกวัดความสำเร็จที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ ให้น้ำหนักกับการลดอัตราการตาย 4. เร่งฉีดวัคซีน 5. คืนสิทธิเสรีภาพในการใช้ชีวิต คืนโอกาสในการทำมาหากิน เปิดประเทศให้การท่องเที่ยวกลับคืนมา 6. สื่อสารให้ชัดเจน ให้ประชาชนเรียนรู้การอยู่กับโรค วางเป้าหมายให้ชัดให้ทุกคนมีความหวัง

โปรดศึกษาแนวทางของสวีเดน เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ ประเทศทางยุโรปเปิดประเทศหมดแล้ว ขณะที่ไทยมียาฟ้าทะลายโจร ที่สามารถรักษาโควิดให้ผู้มีอาการน้อย ทำให้ทุกคนสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ โดยมุ่งรักษาผู้มีอาการ

ตราบใดที่ไม่ปรับเปลี่ยนวิธีการ เราจะไม่มีวันออกจากปัญหา ท่านกำลังผลักประชาชนออกจากท่าน เพราะย่ำอยู่กับแนวทางเดิม ที่ล้มเหลวและสิ้นหวัง .. อ.อัจฉราวดี วงศ์สกล

Comments


bottom of page