top of page

วิกฤตอวิชชา

  • 23 ก.พ. 2565
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 27 มี.ค. 2565




เพราะมวลกระแสพลังงานมืดมิดที่ปกคลุมโลกมหาศาลจากการพัฒนาขึ้นของระบบกระแสไฟฟ้า มาจนถึงระบบอินเทอร์เน็ต จึงทำให้เกิดวิกฤตอวิชชา คือ วิกฤตแห่งการล่อลวง คือ ไม่อาจรู้แจ้งเห็นจริงได้เพราะมนุษย์นั้น “หนา” มาก หนาด้วยความหลงผิด ติดอยู่ในเงื่อนอารมณ์ การมีตัวฉัน ของฉัน อย่างยากที่จะถอดถอน การหลงผิดที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ การติดสุข และติดจมทุกข์ การกอดรัดความสุขไว้จนไม่พยายามเข้าใจกฎของ ความอนิจจัง คือความไม่เที่ยงแท้ และการติดจมกับความทุกข์โดยไม่พยายามเข้าใจหลักของเหตุและปัจจัย บุคคลสร้างเหตุไว้เช่นใด ย่อมได้รับผลที่ตนทำทั้งสิ้น ความมัวเมาที่เห็นชัดอันดับต้นคือ การยึดถือครอบครองกายนี้เป็นของตน โดยไม่ตระหนักถึงความจริงว่า กายนี้เป็นเพียงเครื่องอยู่อาศัยของจิต เราไม่สามารถครอบครองอะไรได้เลยแม้กระทั่งกายของเรา ไม่สามารถสั่งให้กายไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตายได้ เราล้วนมีความตายเป็นสมบัติ ถูกบังคับให้คืนทุกอย่างที่สร้าง และกอบโกยไว้ ถูกบังคับให้ทิ้งความหวงแหนและลุ่มหลงที่ถูกปั่นอารมณ์มาตั้งแต่ต้น ให้ปลิดปลิวไปกับลมหายใจสุดท้าย...“เอาไปไม่ได้เลย แต่จะโกยและยึดให้ถึงที่สุด” ไม่เรียกว่าเมาแล้วจะเรียกว่าอะไร การลุ่มหลงบำเรอตนเองด้วยสรรพสิ่ง เครื่องสำอาง เครื่องประทินผิว ไปจนถึงอุตสาหกรรมศัลยกรรมความงาม ที่แพทย์มากมายเลือกที่จะใช้ข้ออ้างข้าง ๆ คู ๆ ว่าทำศัลยกรรมให้คนมีความมั่นใจมากขึ้น แทนที่จะทำศัลยกรรมเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ที่ต้องการมีที่ยืนในสังคมใหม่ จากศัลยกรรมเบื้องต้น เลยไปสู่ศัลยกรรมที่ทำแล้วหยุดไม่ได้และเสพติดศัลยกรรม กลายเป็นผู้หลงรูปโฉม และพัฒนามาสู่การอวดโฉมทางอินสตาแกรม ผ่านทางระบบเซลฟี่ หลายคนกลายเป็นผู้มีพฤติกรรมหลงตัวเอง และไปสู่การอวดการมีตัวตนของตัวเอง แทนการแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ในชีวิตปกติธรรมดา จากการอวดนำมาสู่การแข่งขัน และการหยุดไม่ได้ที่จะอวด จนจิตใจมีความทุรนทุรายต่อยอดกดไลก์ และในการอวดตนในพื้นที่สาธารณะ ยังนำมาสู่กระแสของการวิพากษ์วิจารณ์ บางคนวิพากษ์ด้วยจิตริษยา บ้างวิพากษ์ด้วยความหลงเชื่อข้อมูลลวง ทำให้ประมาทพลั้งเผลอทำบาปกรรมง่ายดายเพียงนั่งกดสมาร์ตโฟน วัฒนธรรมคำหยาบคาย จาบจ้วงผู้อื่นแผ่ขยายกลายเป็นพฤติกรรมเลียนแบบและพัฒนาไปสู่ความเคยชินที่ด่าได้ทันทีที่ไม่ชอบใจ โดยไม่ยั้งคิดและพิจารณาเลย เพราะมืดเมาเพียงนี้ จึงกลายเป็นวิกฤตอวิชชา ยากนักที่จิตจะรู้แจ้งได้ หากยังไม่รู้วิธีชำระจิตให้บริสุทธิ์ การติดสุข และจมทุกข์ คือสุดยอดของความเมา อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล ที่มา: หนังสือฆราวาสบรรลุธรรม เล่ม 1


Comments


bottom of page