top of page

ฉันทะเพื่อการหลุดพ้น

  • 25 พ.ค. 2562
  • ยาว 1 นาที

ประสบการณ์ธรรม คุณมนัส

ทุกคนล้วนอยากพ้นทุกข์ทั้งทางกายและทางใจ แต่ส่วนใหญ่จะใช้คำนี้ เฉพาะเมื่อตอนที่ตนประสบความทุกข์เท่านั้น เพราะเมื่อวิบากทุกข์หมดวาระลง ความสุขเข้ามาแทนที่ ก็จะหลงเพลินไปกับความสุขนั้น ๆ จนลืมความทุกข์ที่ตนเพิ่งได้ประสบมา ราวกับว่าความทุกข์นั้นจะไม่หวนกลับมาอีก เมื่อก่อนข้าพเจ้าเองก็มีความคิดเช่นนี้ คิดเอาเองในใจว่า ความทุกข์ ความไม่สมปรารถนาเช่นนั้น คงจะไม่หวนกลับมาทำร้ายเราอีก เป็นการคิดปลอบใจตัวเองและเลี่ยงความทุกข์แบบโลก ๆ เพราะกำลังเสวยความสุขอยู่ ต่อเมื่อความทุกข์วิ่งเข้ามาอีกครั้ง ตอนนั้นเอง ก็จะหมดท่าและเริ่มคิดได้ แต่ก็ดูจะสายไปอีกแล้ว

ข้าพเจ้าเคยได้สนทนากับนักภาวนาหลายคน ทุกคนกล่าวแบบเดียวกันว่า อยากพ้นทุกข์ แต่จะทำให้มีความก้าวหน้ามากน้อยเพียงใดก็ต้องมาดูกันว่า ใครมีฉันทะอย่างยิ่ง ที่จะเป็นแรงส่งให้อยู่ในมรรคได้ตลอด ฉันทะ คือความพอใจในการทำให้กุศลเจริญขึ้น กัลยาณมิตรท่านหนึ่งเคยเปรยว่า เขามีความปรารถนาอยากไปนิพพาน อยากมีความก้าวหน้าในธรรม แต่ดูเหมือนกำลังจิต กำลังกาย จะไม่เป็นไปตามต้องการนัก จึงได้ถามข้าพเจ้าว่า “คุณมีฉันทะในการปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์อย่างไร” เป็นคำถามสั้น ๆ แต่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง จึงจะขอขยายข้อความคำถามนี้เพื่อให้เข้าใจยิ่งขึ้น คือ “อะไรเป็นแรงกระตุ้น ให้คุณมีฉันทะในการปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้น” เป็นคำถามที่นักภาวนาเพื่อการหลุดพ้นจะต้องตอบตัวเองให้ได้ เพราะหากคำตอบนั้นยังดูลังเลและไม่มั่นใจ นั่นหมายถึง ท่านยังไม่มีความตั้งใจที่จะหลุดพ้นจริง ๆ

หากคำตอบจะเป็นประโยชน์กับกัลยาณมิตรทุกท่าน ขอนำข้อธรรมอันเป็นแรงส่งและผลักดันให้ข้าพเจ้ามีฉันทะในการทำกุศลให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นเพื่อการพ้นทุกข์ มาแบ่งปันให้ทุกท่านได้นำไปพิจารณา ดังต่อไปนี้

1. การเห็นความน่าเบื่อหน่ายในทุกข์ทั้งหลาย การต้องใช้ชีวิตซ้ำไปซ้ำมา อัตภาพความเป็นมนุษย์ทำให้เราได้มีโอกาสประกอบความดี แต่กายนี้ก็มีความเปลี่ยนแปลง ซึ่งสร้างความน่าเบื่อหน่ายไม่น้อยทีเดียว แม้อาหารก็ยังต้องทาน 3 มื้อ ต้องลำบากหาเลี้ยงกายนี้ให้เจริญอยู่ตลอด ประหนึ่งว่าเราเป็นทาสของกายนี้อย่างไม่มีวันจบสิ้น ความน่าเบื่อที่ต้องดิ้นรนไขว่คว้าให้ได้เหมือนคนอื่น ต้องได้สิ่งนั้น ต้องได้สิ่งนี้ การไม่ได้ดั่งใจปรารถนา ความหลอกลวงต่าง ๆ ความเบื่อเหล่านี้ไม่ได้ตั้งใจเบื่อ แต่เป็นการเห็นว่า มันเกิดและส่งผลตรง ๆ รวมทั้งพิจารณาในธรรมเหล่านั้นจนเห็นทุกข์ดังกล่าวแล้ว จึงหวังอยากพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง ไม่อยากกลับมาเวียนวนกับเหตุการณ์ซ้ำ ๆ ซาก ๆ แบบนี้อีก

2. การพิจารณาความไม่เที่ยงต่าง ๆ คือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ข้าพเจ้าพิจารณาทั้งชีวิตตัวเองและชีวิตผู้อื่น รวมทั้งสิ่งของต่าง ๆ ทุกคนและทุกสิ่งล้วนมีความไม่เที่ยงในตัวตน เช่น ในวัยเรียนข้าพเจ้ามีสายตาที่ดีสดใส มองไปบนท้องฟ้าเห็นดวงดาวใสแจ๋ว เคยบอกกับตัวเองว่า “เราช่างมีสายตาที่สดใสจริง ๆ ” พอทำงานความสดใสของสายตาก็เริ่มเสื่อมถอยลง จนต้องหาตัวช่วยคือแว่นตา เพราะไม่สามารถขับรถได้โดยเฉพาะในเวลากลางคืน วัยที่เปลี่ยนไป อายุที่เพิ่มขึ้น ความเสื่อมทางกายก็เริ่มปรากฏเด่นชัด เรี่ยวแรงเริ่มถดถอย ไม่นานโรคคงถามหามากขึ้น พิจารณาแล้ว เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งไม่เที่ยง เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ไม่อยู่ในบังคับบัญชาของเราได้เลยจริง ๆ

ดังนั้น ควรแล้วหรือที่เราจะยึดมั่นถือมั่นว่า กายนี้ สิ่งของเหล่านั้น เป็นของเราจริง ๆ จึงเกิดเป็นแรงกระตุ้นให้ข้าพเจ้าเพียรละอุปาทานในขันธ์ทั้ง 5 อย่างจริงจัง

3. การเพิ่มปัญญาโดยการศึกษาและปฏิบัติธรรม คือ การฝึกสุตมยปัญญา จินตามยปัญญา และภาวนามยปัญญา เมื่อว่างจากงาน ข้าพเจ้าชอบอ่านปฏิปทาของครูบาอาจารย์ จากหนังสือธรรมะคำสอนของครูบาอาจารย์หลายท่าน ว่าท่านตั้งจิตมีความปรารถนาอยากพ้นทุกข์อย่างไร มีฉันทะเพื่อความเจริญในธรรมอย่างไร มีข้อธรรมเตือนใจอะไรบ้าง รวมถึงปฏิปทาในการปฏิบัติของท่านจนพ้นจากกิเลสทั้งปวงได้ ข้าพเจ้าก็จะจำข้อคิดและปฏิปทาเหล่านั้นมาเป็นแรงส่งให้ดำเนินตาม และมุ่งหวังจะทำให้สำเร็จอย่างที่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายได้ทำไว้ดีแล้ว แม้การอ่านบทธรรมะสั้น ๆ จากการแชร์ในโลกโซเชียลก็มีประโยชน์อยู่ แต่ต้องอ่านแล้วนำมาพิจารณาเพื่อให้เห็นจริงตามนั้น

4. การมีครูบาอาจารย์ที่มีกายสังขารอยู่ ทำให้เราสามารถขอคำแนะนำเพื่อความเจริญในธรรมได้อย่างใกล้ชิด และที่พึ่งของข้าพเจ้าในเวลานี้ก็คือ ท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล แม้ท่านจะเป็นสตรีเพศ แต่ท่านมีจิตใจที่แข็งแกร่งเยี่ยงบุรุษเพศ ฝ่าฟันอุปสรรคแห่งเวทนา พ้นการล่อลวงจากบ่วงมารทั้งปวง ท่านได้สอนธรรมแก่ข้าพเจ้าทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ประสบการณ์ของท่านนั้นเป็นแรงกระตุ้นให้เดินตามมรรค ตามทางที่ท่านอาจารย์ได้ผ่านมาแล้วด้วยดี เพื่อให้ข้าพเจ้าได้ประสบในธรรมที่ท่านได้ประสบ

5. การได้มีโอกาสศึกษาเทคนิควิธีการปฏิบัติที่ทรงพลานุภาพ มีพลังในการเผาผลาญกิเลสให้สลายไปในเวลาอันสั้นได้อย่างมากมายคือ เตโชวิปัสสนากรรมฐาน เป็นวาสนาของข้าพเจ้าเหลือเกิน ซึ่งชัดเจนและแจ่มแจ้งในสภาวธรรมมาโดยตลอด เคหะ คือบ้านจิตสังขารของข้าพเจ้านั้น ถูกทำลายลงเป็นลำดับ ลุกเป็นเพลิง พายุกระหน่ำ น้ำท่วม เคหะจากใหญ่กลายเป็นเล็ก และผุพังลงตามลำดับ เป็นปัจจัตตังดั่ง ปฐมพุทธวจนะ ไม่มีผิดเพี้ยน นี่คืออานุภาพแห่งวิชาประหารกิเลสที่บังเกิดขึ้นแล้วในยุคกึ่งพุทธกาล

6. การได้มีสหธรรมิก กัลยาณมิตรที่มีใจเดียวกัน มุ่งหวังพระนิพพาน ซึ่งหาได้ยากในกาลปัจจุบันที่จะมีคนพูดถึงเรื่องการบรรลุธรรมอย่างจริงจัง แต่เมื่อได้เข้ามาสู่สายธรรมเตโชวิปัสสนากรรมฐานแล้ว ข้าพเจ้าไม่โดดเดี่ยวที่จะเดินทางแห่งการพ้นทุกข์นี้เลย

7. การมีปัจจัตตังที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติธรรมให้เห็นความก้าวหน้าของตน ความยึดมั่นถือมั่นในอารมณ์ ในกายและสิ่งของ ก็ลดลงตามลำดับ สามารถปล่อยวางได้เร็วขึ้น นี้จึงเป็นแรงเสริมให้ไม่หยุดเดินในทางแห่งมรรคผลนิพพาน และยังจะต้องเดินต่อไปจนสุดทาง

8. การเป็นแบบอย่างและเป็นบ่อเกิดแห่งความดีงามแก่ผู้อื่น การที่บุคคลสามารถพัฒนาจิตของตนให้สะอาด ใสบริสุทธิ์ขึ้น อยู่ในฝั่งโลกุตตระลึกซึ้งมากขึ้น นอกจากจะเป็นประโยชน์แก่ตนเองแล้ว คืออยู่อย่างมีความสุขในอุเบกขาธรรม ก็ยังเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ด้วยเราได้กลายเป็นตัวอย่างแห่งความเพียร และเป็นแรงผลักดันให้เหล่ากัลยาณมิตรได้มุ่งมั่นเพื่อการหลุดพ้นจากวัฏทุกข์ไปด้วยกัน

9. สุดท้าย คือการไม่กลับมาเกิดอีกตลอดกาล เป็นฉันทะที่ข้าพเจ้าหวังทำให้กระจ่างแจ้งในเร็ววัน

ทั้งหมดนี้ คือแรงส่งให้ข้าพเจ้า มีฉันทะในการปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้น เพื่อพระนิพพาน

มาเถิดเหล่ากัลยาณมิตรทั้งหลาย มาสร้างฉันทะในการหลุดพ้นอย่างจริงจัง มาเป็นแบบอย่าง เป็นบ่อเกิดแห่งโลกุตรธรรม เพื่อจุดมุ่งหมายสูงสุด คือการจบสิ้นแห่งวัฏทุกข์ เข้าถึงพระนิพพานด้วยกันเทอญ

#รชด #ภาวนา #สตปฏฐานส #พระอาจารยสมเดจพฒาจารยโต #รใหชด #เรองเลา #พระอาจารยสมเดจโต #ฆราวาส #ธรรมะ #ฝกสต #เพงดกาย #สมปชญญะ #สมาธ #ชำระจต #สต #นมตเตอน #ฝกสมปชญญะ #เตโชธาต #รตวทวพรอม #อาจารยอจฉราวดวงศสกล #ดจต #นอกวด #เพยรเผากเลส #ปฏบตธรรม #เผากเลส #วางเฉย #ฆราวาสบรรลธรรม #สมเดจโต #อเบกขา #วปสสนา #เพง #ขณะจต #นพพาน #เพยร #ธรรมแท #เพงดจต #กรรมฐาน #หลดพน #สมเดจพฒาจารยโต #เตโช #สตสมปชญญะ #จตบรสทธ #เตโชวปสสนา #ประสบการณ #เพยรภาวนา

Comments


bottom of page